นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการตัดสิทธิคนที่มีรายได้สูงเข้าร่วม โครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เนื่องจากเตรียมงบไว้ 4 แสนล้าน ว่าไม่ใช่ความจริง เพราะขณะนี้โครงการยังไม่ได้สรุปรายละเอียดอยู่ระหว่างคณะอนุกรรมการพิจารณาเพื่อนำมาเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ คาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งในส่วนเงื่อนไขการแจกเงิน เราไม่ได้ดูเรื่องความรวยหรือจน เพราะเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่โครงการสงเคราะห์ช่วยเหลือคนยากจน แต่ประเด็นที่ต้องพิจารณาคือความคุ้มค่า เช่น หากให้คนรายได้สูงจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ หรือเพียงเอาเงินไปออมแทนและใช้จ่ายเท่าเดิมคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ตอนนี้เราได้ให้การบ้านต่ออนุกรรมการไปพิจารณาหลักเกณฑ์กลุ่มคนที่ควรได้รับเป็นอย่างไร เช่น หลักเกณฑ์การดูคนรวยเป็นอย่างไร เช่น ดูที่เงินฝาก ที่ดิน หรือการเสียภาษี ซึ่งก็อยากถามกลับไปยังผู้เสนอความคิดนี้ว่ามีข้อเสนอเรื่องนี้อย่างไร รัฐบาลพร้อมรับฟัง”
สำหรับกรณีกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก ออกมาเตือนรัฐบาลทั่วโลกให้พยายามรักษาวินัยการเงินการคลัง เพื่อรับมือความผันผวนเศรษฐกิจโลก ขอยืนยันว่า รัฐบาลจะรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด แต่ปัญหาเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมานั้น ทำให้เงินประชาชนขาดมือ เราจึงต้องเติมเงินเข้าไป ซึ่งในแง่วงเงินที่จะนำมาใช้นั้น จะไม่ถึง 5.6 แสนล้านบาทแน่นอน เพราะคนที่มีอายุเกิน 16 ปี มีแค่ 5.48 ล้านคน ดังนั้น กรอบวงเงินสูงสุดมีแค่ 5.48 แสนล้านบาท ที่สำคัญหากนับเงื่อนไขที่จะมีเพิ่มขึ้น และบางคนที่ไม่มาร่วมโครงการ ก็จะใช้เงินลดลงไปอีก สำหรับเงื่อนไขในการสมัครร่วมโครงการเบื้องต้นนั้น ยืนยันไม่ต้องลงทะเบียน ใช้แค่ยืนยันตัวตนและกดรับสิทธิเท่านั้น
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงมาตรการพักหนี้เกษตรกรายย่อย ว่า ขณะนี้มีเกษตรกร มาแสดงความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการพักหนี้ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ 310,000 ราย ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ ธ.ก.ส. เร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมาเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น และให้ความสำคัญกับลูกหนี้เกษตรกรที่เป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ที่มีอยู่ 600,000 ราย ด้วยการทำงานเชิงรุกลงพื้นที่ไปหาลูกหนี้เอ็นพีแอลเหล่านี้ ให้มาเข้าร่วมโครงการ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้มีสิทธิพักหนี้ 2 ล้านราย โดยการเร่งรัดให้ดึงกลุ่มหนี้เสียมาพักหนี้เพิ่มนั้น ต้องยอมรับว่าลูกหนี้กลุ่มนี้ ขาดการติดต่อจากแบงก์ไปนานแล้ว ทำให้การเข้าร่วมมาตรการน้อยราย ซึ่ง ธ.ก.ส. จะใช้เชิงรุก ส่งข้อความเอสเอ็มเอสผ่านมือถือ เพื่อแจ้งสิทธิให้ทราบ และให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมลูกหนี้ เพื่อให้รู้ว่าโครงการนี้เป็นโอกาสที่จะได้ปรับโครงสร้างหนี้ พักหนี้ รวมถึงฟื้นฟูอาชีพได้ด้วย